วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

อุปกรณ์ภายในเพาเวอร์ซัพพลายที่มักพบปัญหาเสียหายบ่อยที่สุด

 อุปกรณ์ภายในเพาเวอร์ซัพพลายที่มักพบปัญหาเสียหายบ่อยที่สุด ได้แก่

1. ตัวเก็บประจุ (Capacitor):
ตัวเก็บประจุเป็นส่วนประกอบที่พบได้ทั่วไปในเพาเวอร์ซัพพลาย และมักเป็นสาเหตุหลักของความล้มเหลว
อาการเสีย: บวม แตก หรือรั่วไหล
สาเหตุ: อุณหภูมิสูงเกินไป การใช้งานหนักเกินกำลัง อายุการใช้งาน

2. ทรานซิสเตอร์ (Transistor):

ทำหน้าที่ควบคุมแรงดันและกระแสไฟฟ้าในเพาเวอร์ซัพพลาย
อาการเสีย: ช็อต หรือไม่สามารถควบคุมกระแสไฟฟ้าได้
สาเหตุ: ความร้อนสะสมสูงเกินไป ไฟกระชาก การใช้งานผิดประเภท

3. ไดโอด (Diode):

ทำหน้าที่ควบคุมทิศทางการไหลของกระแสไฟฟ้าในเพาเวอร์ซัพพลาย
อาการเสีย: ช็อต หรือไม่สามารถควบคุมทิศทางกระแสไฟฟ้าได้
สาเหตุ: ไฟกระชาก การใช้งานผิดประเภท

4. พัดลมระบายความร้อน (Cooling Fan):

ช่วยระบายความร้อนให้กับส่วนประกอบต่างๆ ในเพาเวอร์ซัพพลาย
อาการเสีย: ฝุ่นเกาะ ใบพัดแตกหัก เสียงดัง หมุนช้า ไม่หมุน
สาเหตุ: ฝุ่นละออง อายุการใช้งาน การหล่อลื่นไม่เพียงพอ

5. ชุดวงจรควบคุม (Control Circuit):

ทำหน้าที่ควบคุมแรงดันและกระแสไฟฟ้าให้มีความเสถียร
อาการเสีย: เพาเวอร์ซัพพลายไม่จ่ายไฟ จ่ายไฟไม่สม่ำเสมอ
สาเหตุ: ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในวงจรเสียหาย เช่น IC ตัวต้านทาน


ความเป็นไปได้ของสาเหตุ

  • อายุการใช้งาน: อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีอายุการใช้งาน ยิ่งใช้งานนานวัน โอกาสเสื่อมสภาพก็ยิ่งสูงขึ้น
  • ความร้อนสะสม: ความร้อนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เสื่อมสภาพ ยิ่งใช้งานหนัก ยิ่งมีความร้อนสะสมมาก
  • ฝุ่นละออง: ฝุ่นละอองเป็นตัวนำไฟฟ้า หากสะสมในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้
  • ความชื้น: ความชื้นเป็นสาเหตุของการเกิดสนิม ซึ่งเป็นตัวนำไฟฟ้า
  • ไฟกระชาก: ไฟฟ้าไม่สม่ำเสมอหรือไฟกระชาก อาจทำให้ส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์เสียหายได้
หมายเหตุ: การซ่อมแซมเพาเวอร์ซัพพลายด้วยตัวเอง อาจเป็นอันตรายได้ ควรให้ช่างผู้ชำนาญทำการตรวจเช็คและซ่อมแซมจะปลอดภัยกว่า




วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

คู่มือการตรวจซ่อมเพาเวอร์ซัพพลายเบื้องต้น

 คู่มือการตรวจซ่อมเพาเวอร์ซัพพลายเบื้องต้น สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป

ข้อควรระวัง:
ไฟฟ้าแรงสูงเป็นอันตรายถึงชีวิต การซ่อมแซมเพาเวอร์ซัพพลายควรกระทำโดยผู้เชี่ยวชาญ หากไม่มีความรู้หรือประสบการณ์เพียงพอ ไม่ควร ซ่อมแซมเอง
ตัดการเชื่อมต่อไฟฟ้า ก่อนสัมผัสส่วนประกอบใดๆ ภายในเพาเวอร์ซัพพลาย
ปล่อยประจุไฟฟ้า ที่อาจค้างอยู่ในตัวเก็บประจุ โดยใช้ไขควงที่มีฉนวนหุ้ม แตะที่ขาทั้งสองของตัวเก็บประจุ จนกว่าจะไม่มีประกายไฟ
ใช้อุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือยาง แว่นตานิรภัย

ขั้นตอนการตรวจสอบเบื้องต้น:

1. ตรวจสอบสายไฟและปลั๊ก:

มองหาสายไฟขาด ฉนวนแตก หรือปลั๊กหลวม
ลองเปลี่ยนสายไฟหรือปลั๊กใหม่

2. ตรวจสอบสวิตช์เปิด-ปิด:

กดสวิตช์เปิด-ปิดหลายๆ ครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าทำงานได้ปกติ
ฟังเสียงคลิกของสวิตช์ หากไม่มี อาจเสียหาย

3. ตรวจสอบฟิวส์:

มองหาฟิวส์ขาด โดยสังเกตจากเส้นลวดภายในฟิวส์
เปลี่ยนฟิวส์ใหม่ โดยใช้ฟิวส์ที่มีขนาดและค่าความต้านทานเท่าเดิม

4. ตรวจสอบพัดลมระบายอากาศ:

ตรวจสอบว่าพัดลมหมุนหรือไม่
ทำความสะอาดพัดลม
เปลี่ยนพัดลมใหม่ หากเสียหาย

5. ตรวจสอบกลิ่นไหม้:

ดมกลิ่นรอบๆ เพาเวอร์ซัพพลาย
หากได้กลิ่นไหม้ แสดงว่ามีส่วนประกอบภายในเสียหาย

6. ทดสอบแรงดันไฟฟ้า (สำหรับผู้มีประสบการณ์):

ใช้อุปกรณ์วัดแรงดันไฟฟ้า เช่น มัลติมิเตอร์
ตรวจสอบแรงดันไฟฟ้า ตามมาตรฐาน ATX

หากตรวจสอบเบื้องต้นแล้วยังไม่พบสาเหตุ หรือ ไม่สามารถแก้ไขได้ ควรนำเพาเวอร์ซัพพลายไปซ่อมที่ศูนย์บริการ หรือ เปลี่ยนใหม่


 
การวัดแรงดันไฟฟ้าของ Power Supply ด้วยมัลติมิเตอร์ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก

คำเตือน: การวัดแรงดันไฟฟ้าภายใน Power Supply มีความอันตรายสูง หากไม่มีความรู้และประสบการณ์เพียงพอ ไม่ควร ทำการวัดเองโดยเด็ดขาด ควรให้ช่างผู้ชำนาญทำการตรวจสอบจะปลอดภัยที่สุดครับ

แต่ถ้าอยากรู้ไว้เป็นความรู้ ผมอธิบายขั้นตอนคร่าวๆ ได้ครับ

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม:

  • มัลติมิเตอร์แบบเข็มหรือแบบดิจิตอล ที่สามารถวัดแรงดันไฟฟ้า DC ได้
  • สายไฟต่อพ่วงสำหรับมัลติมิเตอร์
ขั้นตอนการวัด (สำหรับผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น)

  • ตัดการเชื่อมต่อไฟฟ้า: ปิดสวิตช์ Power Supply และถอดปลั๊กออกจากเต้าเสียบ
  • ปล่อยประจุไฟฟ้าค้าง: กดปุ่ม Power บนเคสคอมพิวเตอร์ค้างไว้สักครู่ เพื่อปล่อยประจุไฟฟ้าที่อาจค้างอยู่
  • เปิดฝาครอบ Power Supply:
  • ระบุสายไฟ: บน Power Supply จะมีสายไฟหลายสี แต่ละสีจะมีแรงดันไฟฟ้าต่างกัน ดังนี้
  1. สีส้ม: +3.3V
  2. สีแดง: +5V
  3. สีเหลือง: +12V
  4. สีน้ำเงิน: -12V
  5. สีดำ: GND (กราวด์)

ตั้งค่ามัลติมิเตอร์: เลือกโหมดวัดแรงดันไฟฟ้า DC (มักมีสัญลักษณ์ V⎓) และเลือกช่วงการวัดให้สูงกว่าแรงดันไฟฟ้าที่ต้องการวัด

วัดแรงดันไฟฟ้า:

ต่อสายสีดำของมัลติมิเตอร์เข้ากับสายสีดำ (GND) ของ Power Supply
นำสายสีแดงของมัลติมิเตอร์ แตะที่สายไฟสีต่างๆ ของ Power Supply ตามที่ต้องการวัด

บันทึกค่า: จดบันทึกค่าแรงดันไฟฟ้าที่วัดได้

เปรียบเทียบค่า: นำค่าแรงดันไฟฟ้าที่วัดได้ ไปเปรียบเทียบกับค่ามาตรฐาน ATX

ตารางค่าแรงดันไฟฟ้ามาตรฐาน ATX:

สีสายไฟ
แรงดันไฟฟ้า ความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้
สีส้ม (+3.3V) 3.3V ±0.16V
สีแดง (+5V) 5V ±0.25V
สีเหลือง (+12V) 12V ±0.6V
สีน้ำเงิน (-12V) -12V ±0.6V




หมายเหตุ:

หากค่าแรงดันไฟฟ้าที่วัดได้ เกินกว่าค่าความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้ แสดงว่า Power Supply อาจมีปัญหา

การวัดแรงดันไฟฟ้าเป็นเพียงการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่สามารถยืนยันได้ว่า Power Supply เสียหรือไม่

**ย้ำอีกครั้งนะครับ การตรวจสอบและซ่อมแซมเพาเวอร์ซัพพลายควรกระทำโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น **

.
.............................................................

มาดูรายละเอียดของมาตรฐานแรงดันไฟฟ้า ATX กัน

มาตรฐาน ATX (Advanced Technology Extended) เป็นมาตรฐานที่กำหนดคุณสมบัติต่างๆ ของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เช่น เมนบอร์ด, เพาเวอร์ซัพพลาย, เคส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของเพาเวอร์ซัพพลาย

มาตรฐาน ATX จะกำหนดแรงดันไฟฟ้าที่จ่ายให้กับอุปกรณ์ต่างๆ ภายในคอมพิวเตอร์

แรงดันไฟฟ้าที่สำคัญตามมาตรฐาน ATX

สีสายไฟ
แรงดันไฟฟ้า ความคลาดเคลื่อน (± โวลต์) อุปกรณ์ที่ใช้
สีส้ม +3.3V 0.16V หน่วยความจำ (RAM), อุปกรณ์ต่อพ่วงบางชนิด
สีแดง +5V 0.25V เมนบอร์ด, ฮาร์ดดิสก์, SSD, อุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ
สีเหลือง +12V 0.6V CPU, การ์ดจอ, พัดลมระบายความร้อน
สีน้ำเงิน -12V 0.6V พอร์ต Serial, อุปกรณ์บางชนิดที่เลิกใช้แล้ว
สีดำ GND (กราวด์) - สายดิน ใช้เป็นฐานในการวัดแรงดันไฟฟ้า




ความหมายของตาราง

  • สีสายไฟ: ระบุสีของสายไฟที่จ่ายแรงดันไฟฟ้า
  • แรงดันไฟฟ้า: ระบุระดับแรงดันไฟฟ้าที่สายไฟนั้นๆ จ่าย
  • ความคลาดเคลื่อน: ระบุค่าความเบี่ยงเบนของแรงดันไฟฟ้าที่ยอมรับได้
  • อุปกรณ์ที่ใช้: แสดงตัวอย่างอุปกรณ์ที่ใช้แรงดันไฟฟ้านั้นๆ
ตัวอย่างการอ่านค่า

  • สายไฟสีแดง (+5V) ควรมีแรงดันไฟฟ้าอยู่ระหว่าง 4.75V ถึง 5.25V (5V ± 0.25V)
  • ถ้าสายไฟสีเหลือง (+12V) มีแรงดันไฟฟ้าต่ำกว่า 11.4V หรือสูงกว่า 12.6V ถือว่าผิดปกติ
ข้อควรระวัง
  • การวัดแรงดันไฟฟ้าภายใน Power Supply มีความอันตราย ควรกระทำโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
  • ค่าแรงดันไฟฟ้าที่ผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาของ Power Supply
  • หากพบความผิดปกติ ควรเปลี่ยน Power Supply ใหม่ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับอุปกรณ์อื่นๆ








วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2563

วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2563

Touch Electronics SA06-20S05R-V 061519-11 Q061002 5V 4A 20W Adapter

Touch Electronics SA06-20S05R-V 061519-11 Q061002 5V 4A 20W Adapter


Marke: Touch Electronic
Modell: SA06-20S05R-V
Eigenschaften:
Eingang: 100 – 240 V / 0,8 A.
Ausgang: 5 V/4 A/20 W.
Frequenz: 50/60 Hz

2.5 x 5.5 x 9.6mm
Dimension: 9.5 x 5 x 3.5 cm
Weight: 230g











วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2563

Adapter 12V 3.33A HIPRO - hp-02040d43

Adapter 12V 3.33A   HIPRO - hp-02040d43



ขาย อะแด็ปเตอร์(หม้อแปลง)  HIPRO ของแท้
เป็นสินค้าสภาพดี ใช้งานได้ปกติ  ราคาตัวละ 360 บาท
0809898770

สายไฟ AC แถมฟรี
จัดส่งฟรี
-รับประกันสินค้า 7 วัน

สเป็คสินค้า

Adapter HIPRO HP-O2040D43
Input: AC100-240V 50/60Hz (worldwide use)
Output: DC 12V 3.33A (แรงดันกระแสตรง 12 โวลท์ และกระแส 3.33 แอมป์)
Power: 40W Max
Outlet: 3-Prong

อ่านตรงนี้ดีๆ ขนาดหัวแจ๊ดเสียบครับ
DC Connecter (Barrel) size(ขนาดหัวแจ๊ค)
-Internal Diameter: 2.5mm (ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางรูเสียบใน)
-External Diameter: 5.5mm (ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางนอก)